วิธีการเลือก Body Mist
Body Mist คืออะไร ?
หลายคนอาจจะยังสงสัยว่า Body Mist คืออะไร? และมีความแตกต่างกับน้ำหอมอย่างไร? ที่จริงแล้ว Body Mist และน้ำหอม (Perfume) ผลิตจากหัวน้ำหอมเหมือนกัน แต่ความแตกต่างจะอยู่ตรงที่ความเข้มข้นของ Body Mist จะน้อยกว่าน้ำหอมทั่วไป ซึ่งวัตถุประสงค์ของการใช้ Body Mist นั้นจะเน้นไปในเรื่องการให้ความสดชื่น เย็นสบายและความหอมแบบบาง ๆ จึงเหมาะกับสาว ๆ ที่ชอบความหอมแบบเบา ๆ สบาย ๆ เป็นธรรมชาติ
หลายคนอาจจะยังสงสัยว่า Body Mist คืออะไร? และมีความแตกต่างกับน้ำหอมอย่างไร? ที่จริงแล้ว Body Mist และน้ำหอม (Perfume) ผลิตจากหัวน้ำหอมเหมือนกัน แต่ความแตกต่างจะอยู่ตรงที่ความเข้มข้นของ Body Mist จะน้อยกว่าน้ำหอมทั่วไป ซึ่งวัตถุประสงค์ของการใช้ Body Mist นั้นจะเน้นไปในเรื่องการให้ความสดชื่น เย็นสบายและความหอมแบบบาง ๆ จึงเหมาะกับสาว ๆ ที่ชอบความหอมแบบเบา ๆ สบาย ๆ เป็นธรรมชาติ
หลักการในการเลือกซื้อ Body Mist
1. เลือกตามกลิ่นที่ชอบ
ในปัจจุบันกลิ่นของ Body Mist มีมากมาย ซึ่งแต่ละกลิ่นก็จะให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันออกไป เช่น กลิ่นที่เน้นความสดชื่น กลิ่นที่เน้นความหอมหวานน่าดึงดูด เป็นต้น
ในปัจจุบันกลิ่นของ Body Mist มีมากมาย ซึ่งแต่ละกลิ่นก็จะให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันออกไป เช่น กลิ่นที่เน้นความสดชื่น กลิ่นที่เน้นความหอมหวานน่าดึงดูด เป็นต้น
2. เลือกกลิ่นแนวเดียวกับแชมพูหรือสบู่ ใช้ได้ทุกสถานการณ์
สำหรับคนที่เพิ่งเริ่มใช้ Body Mist หรือคนที่ไม่ชอบกลิ่นที่ชัดเจนมาก ขอแนะนำให้เลือกผลิตภัณฑ์ที่เป็นกลิ่นเดียวกับแชมพูหรือสบู่ เนื่องจากจะให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติ ไม่ฉุนและโดดจนเกินไป เพราะจะมีกลิ่นหอมในแนวเดียวกับแชมพูหรือสบู่ที่คุณใช้เป็นประจำ จัดว่าเป็นกลิ่นกลาง ๆ สุภาพ ใช้ได้กับทุกสถานการณ์
3. กลิ่นผลไม้และดอกไม้
สำหรับสาว ๆ ที่มีนัดเดทหรือนัดสำคัญ ควรต้องหา Body Mist ที่มีกลิ่นเอกลักษณ์เฉพาะอย่างกลิ่นดอกไม้หรือกลิ่นผลไม้ เพราะนอกจากจะเป็นกลิ่นที่หอมหวาน น่าดึงดูดและให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติแล้ว บางกลิ่นอย่างเกรปฟรุต กลิ่นซากุระ หรือกลิ่นลาเวนเดอร์ ยังช่วยลดความเหนื่อยล้า สร้างความสดชื่น ทำให้กระฉับกระเฉงขึ้นอีกด้วย
สำหรับสาว ๆ ที่มีนัดเดทหรือนัดสำคัญ ควรต้องหา Body Mist ที่มีกลิ่นเอกลักษณ์เฉพาะอย่างกลิ่นดอกไม้หรือกลิ่นผลไม้ เพราะนอกจากจะเป็นกลิ่นที่หอมหวาน น่าดึงดูดและให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติแล้ว บางกลิ่นอย่างเกรปฟรุต กลิ่นซากุระ หรือกลิ่นลาเวนเดอร์ ยังช่วยลดความเหนื่อยล้า สร้างความสดชื่น ทำให้กระฉับกระเฉงขึ้นอีกด้วย
4. กลิ่นเปลือกไม้และกลิ่นส้ม ช่วยให้ผ่อนคลาย
กลิ่นเปลือกไม้ (Woody Scent) เป็นกลิ่นที่ค่อนข้างได้รับความนิยมในหมู่น้ำหอมของผู้ชาย เนื่องจากเป็นกลิ่นที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น สดชื่นแบบธรรมชาติ และสุภาพ นอกจากนี้ ยังให้ความรู้สึกที่ผ่อนคลายได้ดีอีกด้วย และยังมีอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ไม่ชอบกลิ่นแนวเปลือกไม้คือ กลิ่นพืชตระกูลส้ม (Citrus) ที่ให้ความรู้สึกหวานซ่อนเปรี้ยว ทำให้รู้สึกสดชื่นและ ผ่อนคลาย
กลิ่นเปลือกไม้ (Woody Scent) เป็นกลิ่นที่ค่อนข้างได้รับความนิยมในหมู่น้ำหอมของผู้ชาย เนื่องจากเป็นกลิ่นที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น สดชื่นแบบธรรมชาติ และสุภาพ นอกจากนี้ ยังให้ความรู้สึกที่ผ่อนคลายได้ดีอีกด้วย และยังมีอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ไม่ชอบกลิ่นแนวเปลือกไม้คือ กลิ่นพืชตระกูลส้ม (Citrus) ที่ให้ความรู้สึกหวานซ่อนเปรี้ยว ทำให้รู้สึกสดชื่นและ ผ่อนคลาย
ความติดทนนานของกลิ่น
ความเข้มข้นของหัวน้ำหอมและความติดทนนานของ Body Mist จะแตกต่างกันไปตามแต่ละรุ่นและยี่ห้อ โดยปกติแล้วความคงทนของกลิ่น Body Mist จะอยู่ที่ประมาณ 30 นาที – 2 ชั่วโมงเท่านั้น
เคล็ดลับในการใช้ Body Mist
ระวังการฉีดในปริมาณที่มากเกินไปเพราะการฉีด Body Mist ในปริมาณมากเพื่อให้ความหอมชัดเจนและคงอยู่ทั้งวัน เป็นเรื่องที่ผิด แม้ว่าการฉีดน้ำหอมจะเป็นการช่วยเสริมบุคลิกและความมั่นใจให้กับเราในรูปแบบหนึ่งก็ตาม แต่ถ้าหากเราฉีดในปริมาณมากเกินไปจนเกิดกลิ่นฉุน ความหอมนั้นอาจกลายเป็นการสร้างความรำคาญให้กับคนรอบข้างและทำให้เราเสียบุคลิกได้
ความเข้มข้นของหัวน้ำหอมและความติดทนนานของ Body Mist จะแตกต่างกันไปตามแต่ละรุ่นและยี่ห้อ โดยปกติแล้วความคงทนของกลิ่น Body Mist จะอยู่ที่ประมาณ 30 นาที – 2 ชั่วโมงเท่านั้น
เคล็ดลับในการใช้ Body Mist
ระวังการฉีดในปริมาณที่มากเกินไปเพราะการฉีด Body Mist ในปริมาณมากเพื่อให้ความหอมชัดเจนและคงอยู่ทั้งวัน เป็นเรื่องที่ผิด แม้ว่าการฉีดน้ำหอมจะเป็นการช่วยเสริมบุคลิกและความมั่นใจให้กับเราในรูปแบบหนึ่งก็ตาม แต่ถ้าหากเราฉีดในปริมาณมากเกินไปจนเกิดกลิ่นฉุน ความหอมนั้นอาจกลายเป็นการสร้างความรำคาญให้กับคนรอบข้างและทำให้เราเสียบุคลิกได้
Powered by
MakeWebEasy.com